Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for สิงหาคม, 2009

คนจะท้องได้ต้องมี  5  อย่างนี้เป็นพื้นฐานนะคะ

  • คุณสามีต้องมี  “เชื้ออสุจิ”  จำนวนมากพอคือมากกว่า 20 ล้านตัวต่อ 1 ซีซี แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดี มากกว่า  60% นะ
  • คุณภรรยาต้องมี “ไข่” ที่อุดมสมบูรณ์ดีและมีการตกไข่ที่สม่ำเสมอ  ไขจะต่อช่วง  14  วันก่อนประจำเดือนครั้งต่อไปจะมา  ของเรา  รอบเดือน  30-31 วัน  ไข่ตกช่วงวันที่ 16-17 ของรอบเดือนค่ะ  ที่รู้เพราะมีการวัดหลายอย่าง  ทั้งใช้กราฟ BBT  และตรวจฮอร์โมน LH ในปัสสาวะ  ทำไงเดี๋ยวโพสบอกนะคะ
  • มูกปากมดลูก  ต้องมีคุณภาพดีปริมาณพอเหมาะ และเป็นมิตรคอยช่วยเหลือการเดินทางของ “อสุจิ” จนถึงจุดหมายปลายทาง   หรือของเราเองไม่ค่อยมีมูกปากมดลูกนะ  รู้สึกเวลามีไรกับสามีมันแห้ง ๆ น่ะ  (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า)  แต่เราก็ใช้ตัวช่วยนะ เราไปซื้อ Pre-seed เจลมาใช้  เพราะช่วยให้ตัวอสุจิ เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ใครเคยใช้ได้ผลดี  ช่วยแชร์ประสบการณ์ด้วยค่ะ เล่าสู่กันฟัง
  • เส้นทาง ตั้งแต่ปากมดลูก, โพรงมดลูกและท่อนำไข่ ต้องดี สะดวกไม่มีอุปสรรคขัดขวางทั้งขาไปและขากลับ   อันนี้ต้องไปฉีดสีและ x-ray ดู เขาว่าประมาณ  3000 กว่าบาทแน่ะ
  • มดลูกดี ไม่มีซีสต์-เนื้องอก เยื่อ  บุโพรงมดลูกต้องหนาพอที่จะรองรับการฝังตัวและเจริญเติบโตของ “ตัวอ่อน” อย่างไม่มีปัญหา จนถึงกำหนดคลอดออกมา  

อ้อ! ลืมไปค่ะ  คนจะท้องได้ต้องมีสามีด้วยนะคะ  คนเดียวท้องไม่ได้ค่ะ  555.

Read Full Post »

สำหรับคนมีบุตรยากแล้ว  ก็จะพยายามทำทุกวิธีทางที่จะพอทำได้  เราเองก็เหมือนกันไม่รู้มีปัญหาเรื่องไข่ตกหรือเปล่า  เราก็ศึกษาหาข้อมูล  จนได้มา  2  วิธีเพื่อตรวจวัดว่าตัวเองไข่ตกหรือไม่ 

  1. ชุดทดสอบวันตกไข    อันนี้ใช้ตรวจวัดฮอร์โมน LH  เราได้ซื้อมาจากทางอินเตอร์เน็ต ใช้ทดสอบปัสสาวะค่ะ   (เดี๋ยวโพสแยกเรื่องดีกว่า  อันขอคุญเรื่อง อุณหภูมิร่างกายบอกวันไข่ตกก่อนนะคะ)
  2. วัดอุณหภูมิร่างกาย  (Basal Body Temperature : BBT)     ภาษาทางวิชาการไม่รู้เรียกยังไง  แต่มันก็คือการวัดอุณหภูมิร่างกายตอนตื่นนอน  หรือหลังจากที่ร่างกายหลับมากกว่า 3-6 ชั่วโมง  โดยวัดทันทีหลังจากตื่นนอน ห้ามลุกออกจากเตียงหรือมีกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น  ไม่ดื่มน้ำ  หรืออะไรก็แล้วแต่    เอาเป็นว่าลืมตามาเมื่อไรวัดเมื่อนั้น   ลืมตาปุ๊ปยืดมือไปหยิบเทอร์โมมิเตอร์ยัดใส่ปากปั๊ม  5  นาทีค่อยอ่านผลค่ะ  เราใช้แบบเทอร์โมมิเตอร์แบบแท่งแก้วปรอท  ถ้าเป็นต่างประเทศเค้าจะมีมิเตอร์สำหรับการนี้โดยเฉพาะ  แต่ที่ไทยยังไม่ทราบจะหาซื้อได้ที่ไหน   บันทึกกราฟลงกราฟอุณหภูมิที่ต้องพล็อตทุกวัน

คำแนะนำในการวัดอุณหภูมิร่างกายตอนตื่นนอนตอนเช้า

  • นำเทอร์โมมิเตอร์มาไว้ใกล้หัวเตียง  เพื่อพอตื่นนอนจะได้หยิบได้เลยโดยไม่ต้องขยับร่างกายไปไหน   เผื่ออุณภูมิจะเพี้ยนไปนะ
  • กราฟและปากกาไว้จดวางไว้ใกล้ๆ กัน   วัดเสร็จได้จดไว้เลย   กันบางคนชอบลืม  (เราเองน่ะ)
  • ก่อนนอนไม่ต้องกินน้ำมาก   กิจหนักเบาทำให้เรียบร้อยก่อนนอน กลางดึกจะได้ไม่ลุกเข้าห้องน้ำบ่อย   ร่างกายจะได้หลับสนิทยาวถึงเช้า
  • ตื่นนอนลืมตารีบวัดทันที แล้วบันทึกไว้
  • วัดเวลาเดียวกันทุกวัน (หรือเวลาใกล้เคียงกัน)
  • วัดตำแหน่งเดิมเหมือนกันทุกวัน  จะเป็นใต้ลิ้น,ใต้รักแร้ หรือทวารหนักก็ได้  แต่ไอ้อย่างหลังเนี่ยไม่จำเป็นอย่าเลยดีกว่า  นึกแล้วเสียวแทน  สามีตื่นมาเห็นตกใจหมด  เราเองวัดใต้ลิ้นตลอด  สะดวกแม่นยำดี
  • ก่อนวัด อย่างที่บอกห้ามทำกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้นเพราะจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น  เพี้ยนไปจากที่ควรเป็นได้นะ  ห้ามดื่มน้ำ ห้ามลุก  ห้าม…กับสามีนะ  ให้วัดเสร็จก่อน

นึก ๆๆๆ  ไม่ออก  มีเท่านี้แหละข้อแนะนำในการวัดที่เราทำอยู่เราบันทึกมาได้  3  เดือนแล้วนะ  ตั้งแต่เดือน พ.ค.52  น่ะ  กะว่าจะวัดไปเรื่อย  การดูวันไข่ตกค่อนข้างจะเป็นตามทฤษฎีนะ  ที่พูดอย่างเนี๊ยะเพราะเราใช้ชุดวัดระดับฮอร์โมน LH  ด้วยผลที่ได้ตรงกันเลย  ส่วนวิธีการแปลผลเดี๋ยวจะมาโพสต์ให้อ่านอีกนะ

Read Full Post »

การตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ จะต้องมีปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้คือ
1. คุณสามีต้องมีการสร้างเชื้ออสุจิเข้ามาในน้ำอสุจิได้ปกติ ทั้งในแง่ของจำนวน, การเคลื่อน ไหว และ รูปร่าง  จำนวนก็ ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตัว ,ความปกติและการเคลื่นไหวไม่ต่ำกว่า 60% จ้ะ
2. คุณสามีอีกละ  ต้องมีความสามารถในการหลั่งอสุจิเข้าในช่องคลอดของฝ่ายหญิง  คือไม่หย่อน (เสื่อมสมรรถภาพ) ไม่ยานอะไรทำนองเนี๊ยะ
3. เชื้ออสุจิต้องสามารถผ่านมูกของปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูก และผ่านเข้าไปในท่อของมดลูก
 (หรือ ท่อนำไข่) เพื่อไปพบกับไข่ของฝ่ายหญิง ในท่อนำไข่นั้น ในช่วงเวลาที่มีการตกไข่
4. เชื้ออสุจินั้นต้องมีความสามารถเจาะเปลือกเซลของไข่เข้าไปทำให้เกิดการปฏิสนธิได้ในท่อนำไข่
5. คุณภรรยาต้องมีการตกไข่ปกติ และมีท่อนำไข่ปกติที่ให้ไข่เดินทางเข้าและผ่านไปได้
6. ไข่ที่ผสมแล้ว ต้องสามารถเดินทางผ่านท่อนำไข่เข้าไปยังโพรงมดลูกได้ เพื่อฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูก
7. ไข่มี่ผสมแล้ว ต้องแบ่งตัวเป็นตัวอ่อนเป็นปกติ และเจริญเติบโตที่ปกติต่อไปได้ในโพรงมดลูก
การขาดปัจจัยข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าว จะไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ ตามธรรมชาติได้ ทำให้เกิดปัญหามีบุตรยาก
หรือถ้าความผิดปกติรุนแรงมากก็ทำให้มีบุตรไม่ได้  เรียกว่า เป็นหมัน

ส่วนเราคุณสามีไม่เป็นหมันค่ะ  แต่เราน่ะสิ  หมัน หรือเปล่าไม่รู้ ..  (โอ้ไม่นะ ..ไว้ไปหาหมอก่อน สู้ ๆ)

Read Full Post »

เราแต่งงานมา  1 ปี ครึ่งแล้ว  ไม่เคยคุมกำเนิดมาเลย ตอนนี้ก็ยังไม่มีลูกซักที  อย่างนี้เรียกมีบุตรยากหรือเปล่านะ  (เราว่ายากนะ เพื่อน ๆ เราเขามีกันไปหมดแล้ว  โอ้! เศร้า)

เขาว่าการมีบุตรยากมุ่งไปที่ผู้หญิงมากกว่านะ ส่วนคุณผู้ชายตรวจอย่างเดียวเรื่องน้ำเชื้อ  จำนวนเสปิร์ม  น้ำเชื้อไม่อ่อนเสปิร์มไม่น้อย ก็โอเค  ไม่มีปัญหา  ส่วนผู้หญิงนั้นถ้าแต่งงานมานานแล้วยังไม่มีลูกซะที่นี่ซิ  หาสาเหตุกันยาวเลย

  • ยังไงถึงเรียกว่ามีบุตรยาก ผู้หญิงอายุที่ไม่เกิน  35  ขวบ  แต่งงานเกิน  1  ปี  มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอแต่ยังไม่มีบุตรนี่สิ  ต้องเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ได้แล้วนะ  แต่ถ้าเกิน  35 ปีไปแล้ว  6  เดือนยังไม่มีบุตรก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ได้แล้วเหมือนกัน (จี๋เลย  อายุเยอะแล้วน่ะ) 
  • ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย  เรื่องการมีบุตรยากนั้นมุ่งเน้นมาทางผู้หญิงซะมากกว่า (อ๊ะเราด้วยนิ่)  อย่างเราก็จะมีการไข่ตก  ตกไข่อะไรประมาณเนี๊ยะ เดือนละ  1  ครั้ง เป็นสิ่งสำคัญของการมีลูกอย่างหนึ่ง  และเป็นอย่างแรกที่แพทย์พิจารณาสาเหตุ   อายุมากขึ้นความสมบูรณ์ของไข่ก็จะน้อยลง  และอีกหลายอย่างที่เป็นสาเหตุให้ผู้หญิง  พบปัญหามีบุตรยาก  เช่น  สภาพมดลูกไม่ปกติ  , ท่อรังไข่อุดตัน , มีพังผืดในมดลูก ,มีซีสต์ โอ้ยเยอะแยะ  อีกอย่างแต่น้อยมากคือประมาณว่ามีภูมิต้านทานเชื้ออสุจิ  โอ้! ขออย่าให้เป็นเราเลยนะ  
  • ส่วนพวกผู้ชายเค้าจะมีการผลิตอสุจิทุกวัน   ปริมาณ  2.5-5 ซีซี. ต่อการหลั่งหนึ่งครั้ง   จำนวนสเปิร์มมีมากกว่า 20ล้านตัวต่อซีซี.  ความปกติของตัวอสุจิมากกว่า  60%  และความเคลื่อนไหวปกติมากกว่า  60%  (อาฮ่า  อันนี้ของสามีผ่านฉลุยคุณหมอที่ตรวจบอกว่า วิศวกรดีแต่โรงงานผลิตไม่ดี  หมายถึงเราเองน่ะแหละ ฮือ..เศร้าอีกละ)
  • สาเหตุไหนทำให้มีบุตรยากกว่ากันล่ะ    ปัจจัยภายใน เช่น มดลูก รังไข่ ซีสต์  อย่างที่บอกไปเมื่อกี๊นี้น่ะละ   ส่วนภายนอก  ก็เป็นพวกเรื่องความเครียดจากงาน  ทำงานหนักพักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนได้ไม่ปกติ   ส่วนคุณผู้ชายก็  เหล้า  บุรี  เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้มีบุตรยากนะคะ
  • อาการที่ปรากฎพบในกลุ่มผู้ที่มีบุตรยาก   ถ้ายังไม่มีบุตรซักที่แล้วมีอาการเหล่านี้สงสัยได้เลยว่าคุณเป็นกลุ่มผู้ที่มีบุตรยากแล้วละ   ปวดท้องเวลามีประจำเดือน  ,  ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ,  มีน้ำหนักตัวมาก (อ้วนนั่นเอง)  ใครอ้วนรีบลดด่วน

เท่านี้ก่อนนะ  เราสงสัยละว่าเราอยู่ในกลุ่มผู้มีบุตรยากน่ะ.. จันทร์นี้  จะไปพบหมอแน่นอน ที่ รพ.สิงห์บุรี

Read Full Post »

เราไปทำใบขออนุญาติขับขี่รถยนต์ เตรียมเอกสารไปมีดังนี้

  1. รูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก แว่น   1″   2  รูป
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน  1  ใบ
  3. สำเนาใบทะเบียนบ้าน   1  ใบ
  4. ถ้าเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล  ต้องแนบสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ  และ สำเนาทะเบียนสมรสด้วย
  5. เตรียมรถไปสอบขับขี่ด้วยนะคะ   บางแห่งมีรถให้เช่าค่ะ  ทางที่ดีใช้รถตัวเองดีกว่าค่ะ
  6. เตรียมตัว เตรียมใจให้ดีแล้วกันค่ะ

Read Full Post »

เราเป็นคนหนึ่งที่รักสัตว์ สัตว์เลี้ยงที่รัก  อันดับ 1  คือ  หมา  รองลงมา  คือ  แมว    วันนี้เราจะพาแมวไปหาหมอมันเป็นโรคผิวหนัง ขนร่วงเป็นวง ๆ ไม่รู้เป็นเชื้อราหรือเปล่านะ   วันนี้เลิกงานจะรีบมามันไปหาหมอ   ใช้มอเตอร์ไซด์ค่ะไม่มีรถยนต์ ประมาณ  16 กก.  กว่าจะถึงหมอ  มานะมาก  พาไปได้ทีละตัววันนี้จะพา  เจ้าเหลืองไปก่อน  ขอเล่าประวัติแมวที่เราเลี้ยงก่อนเลยนะ

  • ตัวที่ 1  ได้ “มงคล”  (ตัวผู้) สีขาวปลอด  ตอนนี้แก่แล้วแต่ยังเที่ยวอยู่สภาพยับเยินจากการกรำศึกหนักเรื่องผู้หญิง  ประเภทชอบฟัดกับตัวผู้ด้วยกันแล้วแย่งตัวเมียอย่างนี้
  • ตัวที่  2  “ไอ้มีลาภ”  (ตัวผู้)  ตอนหลงมาโดนหมารุมจะกัด   คุณสามีช่วยไว้เก็บมาเลี้ยงตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว   สีขาวปลอด  มีวงสีดำใหญ่ ๆ  ทั่วตัว  ให้นึกถึงลายวัวนมละกัน
  • ตัวที่  3  “เจ้าเหลือง”  เป็นแมวตัวเมีย  แมวใครไม่รู้พอท้องก็มาออกลูกที่บ้าน  ออกมา  4  ตัว  ตายไป  2  ค่ะ  น้องหมาฟัดซะ  (น่าสงสารมาก)  มันซนและวิ่งหล่นจากบ้านเราไม่อยู่ไปทำงานกลับมาก็ตายเสียแล้ว ฮือ ๆ เศร้าจัง
  • ตัวที่ 4 และ 5   “ไอ้มีทอง”  ลายเหลือง  ลูกเจ้าเหลืองที่เหลืออยู่ตอนนี้ยังเป็นแมวรุ่นไม่โตเท่าไหร่นัก  กำลังน่ารัก ตอนนี้โตแล้วเรากำลังจะฝึกให้คุ้นกับหมา (นางโรส  กับ นายหยก) 
  • ตัวที่  6  คนเล็กสุดท้อง  “ไอ้น้อย”   สีขาวแซมเหลืองเล็กน้อยผิวเผินเหมือนสีขาวปลอด  แต่ไม่ใช่มีลายเหลืองปนด้วยถ้าดีให้ดี   แต่หางจะเป็นลายเหลืองค่อนข้างชัดแต่ไม่เข้มนัก   เป็นลูกแมวน้อยน่ารักหลงทางมา ชะตาเกือบโดนหมากัดตาย  อาศัยนอนอยู่ที่ต้นชมพู่หน้าบ้าน  กว่าจะยอมให้คุณสามีจับมาเลี้ยงได้ก็ต้องนอนอยู่บนนั้นหลายวันเลย    ซน ฉลาด ปราดเปรียว   เก่งกว่า  ไอ้มีทองที่โตกว่าซะอีก   ตอนนี้  ไอ้น้อย  สามารถลงไปเดินเล่นกับหมาได้แล้วนะ

ประวัติแมวคร่าว ๆ  นะ   วันนี้ตอนเลิกงานจะรีบพาเจ้าเหลืองไปหาหมอค่ะ รักษาโรคผิวหนัง  อ้อ ฉีดยาคุมกำเนิดด้วย    ถ้าท้องอีกต้องเปิดฟาร์มแมวซะแล้ว

Read Full Post »

เมื่อวันที่ 17/8/52  เราได้ไปทำใบขออนุญาติขับขี่รถยนต์ที่  สำนักงานขนส่งจังหวัด…(ไม่ขอบอกและกันนะ)  สถานที่ราชการนะเราก็ประชาชนไปขอใช้บริการตามที่กฎหมายบังคับใช้  แต่การบริการที่ได้รับมันแย่สุด ๆ   ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องคำพูดจา  ไม่มีหางเสียง  พูดจากระแทกกระทั้น  ว่าประชาชน  ตาสีตาสา  ว่าไม่เกรงใจให้เขาอาย    เฮ้อ…  ข้าราชการไทยเป็นอย่างนี้เหรอเนี่ย  ข้าราชการที่ดีก็ขอชมเชยนะคะ   แต่ส่วนที่ไม่ดีก็ขอตำหนิหน่อย  ทั้งนี้เพื่อก่อนะคะ อย่าคิดไรมาก   ยกตัวอย่างคำพูดที่ได้เจอ 

  • “มาทำไร”  พูดอย่างเนี๊ยะ มะนาวไม่มีน้ำเอาซะเลยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นซะเหลือเกิน  ฟังดูแล้วเหมือนตะคอก
  • “ชื่อไร”  แต่ละคำไม่เหมือนคนที่มีการศึกษาพูดเลย  แย่จัง
  • “ชักช้าจังทำไม่ได้ถอยไปต่อท้ายโน่นเลย”  ตอนสอบปฏิกริยาคุณน้าคนหนึ่งโดนเจ้าหน้าที่ดุ   คนอื่นมองหน้ากันเหรอเลย  พูดไปได้ไงเนี่ย
  • “เสร็จแล้วมาลงชื่อทางนี้  คนนั้นน่ะเสร็จแล้วเชิญด้านนอก”   อ่านแล้วธรรมดานะ  แต่ถ้าได้ฟังจริง ๆ  เหมือนไล่ตัวอะไรซักอย่าง  นั่นประชาชนนะเงินเดือนคุณก็มาจากเขาแท้ ๆ   หดหู่จริงข้าราชการบางคน (หลายคนซะด้วย ที่ไปเจอเป็นอย่างนี้เกือบทุกคนเลย เศร้าฮือ ๆ ..)
  • อีกหลายอย่าง   คงเขียนให้อ่านได้ไม่หมด

ไม่รู้ใครเคยมีประสบการณ์ประมาณนี้บ้างนะ   ข้าราชการพูดจา  กริยามารยาทไม่ให้เกียรติ์หรือความเกรงใจต่อประชาชน  ตาสีตาสาชาวนาที่ไปขอใช้บริการน่ะ    เราเองพบเหตุการอย่างนี้บ่อย  ไปสำนักงานขนส่งจังหวัดก็เป็นแบบนี้   ไปที่ว่าการอำเภอก็เจอแบบนี้   ฟังแล้วน่าเศร้าจริง ๆ     ถ้าเป็นไปได้วอนขอให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หรือผู้ที่เกี่ยวข้องสังเกตุพฤติกรรมข้าราชการพวกนี้  และพัฒนาให้ดีกว่านี้หน่อยเถอะค่ะ    เป็นข้าราชการไทย  มีความรู้  มาเป็นแบบนี้อายเค้านะ  (หรือเค้าอาจจะไม่อายก็ได้)

โหฟังดูแล้วแรงแฮะ   ระบายในสิ่งที่เจอมากับตัวน่ะ    ข้าราชการคนใดเข้าข่ายที่เล่ามาปรับปรุงตัวด่วน…

อ้อ!  เราอยู่ต่างจังหวัดน่ะ  ไม่รู้ในกรุงเทพฯ  หรือ ที่อื่นมีแบบนี้มั่งเปล่าคะ

Read Full Post »

หายไปนานเลยค่ะ  ไอ้เรื่องเชื้อราที่เล็บเนี่ยให้ตายเหอะมันยังเป็นอะไรที่ติดอยู่ในหัวใจจริง ๆ  หลังจากที่เราได้ไปหาหมอที่คลีนิกมาแล้วได้ครีมทามา  2  ตลับ  หลังจากที่เราใช้ได้ประมาณ  1 อาทิตย์กว่า ๆ   เราหาในเน็ตจึงรู้ว่ามันมียาที่สามารถซึมไปฆ่าเชื้อราที่เล็บได้  แต่ตามคลีนิกไม่มี  เอาวะจะไป รพ. ละ  ตัดสินใจ เมื่อวาน  20/8/52  เลิกงานแล้วก็ไป รพ.สิงห์บุรี  เลิกงาน  17.00  น.  กว่าจะได้ตรวจ  เกือบทุ่ม น่ะ   อ้อที่ รพ. เค้ามีเปิดทำการนอกเวลาด้วยดีจังจะได้ไม่ต้องลางาน    พอพบหมอเราก็เล่าอาการให้ฟังอย่างที่เคยเล่าให้ทางคลีนิกนั่นแหละ

  • เรา   :   ขออนุญาติเปิดเท้าให้ดูนะคะ  ขอโทษนะคะ เล่า ๆ ….
  • หมอ   :   อือ..
  • เรา   :   เคยไปพบหมอที่คลินิก หมอบอกเป็นเชื้อราที่เล็บค่ะ แต่ไม่ได้ให้ยาทานเพราะเราบอกว่ากำลังปล่อยมีน้องอยู่   ก็เลยจะมาที่ รพ.ใหญ่   แล้วที่ รพ.มียาที่ซึมเข้าไปฆ่าเชื้อราในเล็บค่ะ
  • หมอ   :   ไม่มีหรอกค่ะ   (เฮ้อหมอไม่ค่อยพูดค่อยถามอะไรเลยแฮะ..  คำแนะนำก็ไม่มี)
  • เรา   :   แล้วเราจะรักษาหายไหมคะ ?
  • หมอ  :  ไม่หายหรอกค่ะ  ต้องถอดเล็บค่ะ  (อึ๋ย หมอที่คลีนิกแนะนำว่าถอดเล็บไม่ช่วยอะไรมาก ต้องกินยา และระวังเรื่องน้ำนะ  หมอ รพ.ให้ถอดเล็บลูกเดียว เฮ้อ..)
  • เรา   :   เคยอ่านในเน็ตมียาชื่อ Ciclopirox น่ะค่ะที่ สามารถซึมเข้าไปใต้เล็บได้ค่ะ ที่  มีไหมคะ
  • หมอ   :   ที่ รพ. ไม่มีหรอกค่ะ   ยังไงเอายาครีมไปทาก่อนละกันค่ะ
  • เรา    :    (อึ้ง.. ไปพักหนึ่ง)  ค่ะ (รพ.ประจำจังหวัดยังไม่มีเลย แล้วจะไปซื้อที่ไหนเนี่ย)

ไม่ถึง 5 นาที่ เราก็ออกจากห้องตรวจพร้อมใบสั่งยา หมอไม่ถามไม่แนะนำอะไรเลยอ่ะ   เสร็จแล้วเดินไปรับยา  ได้ยามา 1 หลอด  เป็นครีม ชื่อ  CLOTRIMAZOLE  เป็นครีมฆ่าเชื้อราที่ผิวหนัง 

เสร็จแล้วเดินทางกลับบ้าน  อ้อลืมบอกไปว่าสงสารสามีเหมือนกันนั่งรอเราตั้งนานคงหิวแย่ละ “ทุ่มกว่าแล้วกลับไปกินข้าวบ้านกันเหอะ..”

Read Full Post »

เที่ยงแล้วนะ  เพิ่งเปิดบล๊อกเข้ามา  ยังไม่ได้โพสบทความซักบทเลยวันนี้  ไม่รู้จะเขียนอะไรดี  ก่อนจะเข้าบล๊อกมาเนี่ย  เราไปนั่งอ่านเรื่อง Amazon Astore  อยู่นานเลย  เพราะเราเพิ่งเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการหารายได้กับ www.amazon.com   ประมาณ 1 เดือนผ่านไปยังไม่ได้ขายสินค้าเลยซักชิ้น  เฮ้อ  ลองทำตามหนังสือดู  อ่านแล้วมันง่ายมากเลยนะ  แต่พอทำจริงแล้วถึงรู้ว่าถึงแม้คุณทำตามตำราซัก 10 เล่ม แล้วละก็ไม่ได้ทำให้คุณสามารถขายของได้เลยนะ   เรื่องการโปรโมทเว็บนี่สิดูจะสำคัญมาก ๆ ด้วย  ส่วนเรานะเริ่มทำจริงอยู่  แต่เรื่องของการโปรโมทเว็บไซต์นี่สิไม่ค่อยคืบหน้า จึงทำให้ยังขายของไม่ค่อยได้

เพื่อนคงหลายคนอาจไม่รู้จัก amazon store ก็ไม่เป็นไร   เอาเป็นว่า amazon เนี่ยเค้าขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต  ส่วนเราก็เป็นนายหน้าขายของให้กับทำ amazon  หากขายได้ เราก็จะได้ส่วนแบ่งมาอะไรประมาณนั้น   หรือเรียกอีกอย่าง การทำธุรกิจแบบ Affiliater program   แล้วเราจะเล่าให้ฟังอีกครั้งนะ

Read Full Post »

ผ่านไปแล้ว 3 วันค่ะหลังจากเราไปพบหมอ เพื่อรักษาโรคเชื้อราที่เล็บ คุณหมอบอกว่าหลีกเลี่ยงการโดนน้ำนะ  เพราะจะทำให้รักษายาก  รู้ไหมเราก็เคร่งครัดมากไม่ยอมให้เล็บเท้าโดนน้ำเลยละ   ความลำบากยากเข็ญที่เกิดจากการเป็นโรคเชื้อราที่เล็บ   จะสาธยายให้อ่านแล้วกัน

  • ซักผ้ากิจกรรมที่สุดแสนจะลำเค็ญ    เราก็อยู่ชนบทน่ะนะ  ซักผ้าด้วยมือค่ะ (คนเมืองก็อย่าอิจฉาละกัน)  วัฒนธรรมในการซักผ้าแบบดั้งเดิมก็ยังไม่สูญหายไปนะภูมิใจอยู่เหมือนกัน  เฮ้อ.. ปลอบใจตัวเองน่ะ    หนีไม่พ้นเรื่องน้ำเวลาซักเท้าต้องเปียกน้ำทุกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้  เราใช้ถุงพลาสติกเล็ก ๆ มัดหัวแม่โป้งเท้าไว้ไม่ให้น้ำเข้า  คิดดูเหอะ  กว่าจะซักเสร็จนิ้วเขียวกันพอดี  แต่ก็ชักชินแล้ว เพราะต้องซักทุกวัน  ของตัวเองและของสามีด้วย
  • ความวิตกจริตที่สุดแสนจะลำคาญ   เชื่อไหมเวลาไปทำงานเราใส่รองเท้าผ้าใบและแน่นอนต้องใส่ถุงเท้า  ไม่ชอบเดินเท้าเปลือย  การใส่ถุงเท้าก็จะทำให้เท้าอับ (เวลาเหงื่อออก)   เราต้องถอดถุงเท้าเข้า -ออก อยู่เรื่อยเพราะกลัวเท้าอับ  โหเกือบจะเป็นอาการโรคจิตเลยนะ  แต่ก็ไม่คิดมากนะ  แค่พยายามอย่าให้เท้าอับชื้น  หรือโดนน้ำน่ะ
  • น้องที่ทำงานมันชอบขำเราอยู่เรื่อยเลย    แน่นอนพออยู่ที่ทำงานก็ต้องมีการระบายให้เพื่อนร่วมงานฟังกันบ้าง “เจี๊ยบแกดูดิ เท้าข้าเป็นเชื้อราที่เล็บว่า”  น้องที่ทำงานมันชื่อเจี๊ยบตอนนี้มันท้องใกล้คลอดแล้ว  เรารึอยากท้องจะตายกลับไม่ท้องเลยได้แต่นังอิจฉามันทุกวันเลยเฮ้อ   เอ้า! นอกเรื่องเฉยเลย     แล้วเราก็เปิดเล็บเท้าให้มันดู “ดูดิ น่าเกลียดมาก …. (ฝอยไปเรื่อยๆ)”     เวลาเราเปิดเท้าดูทีไร มันก็ขำว่าเราเปิดเท้าดูอีกและ    จนเดียวนี้มันเลิกขำแล้วเพราะเป็นเรื่องปกติ  ส่วนเราสิขำไม่ออก   เฮ้อ… คิดแล้วเศร้า
  • จะไปหาหาหมอที่ไหนดีละเนี่ย   เขาว่ามียาหยดที่ซึมเข้าไปในใต้เล็บได้  ไอ้ที่เราทาอยู่มันไม่ซึมเข้าไปใต้เล็บน่ะไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย แต่ก็ทาไปดีกว่าไม่ทาไรเลย   เดี๋ยวจะไปหาหมอที่  รพ.สิงห์บุรี ล่ะ  น่าจะมีวิธีรักษาที่ดีกว่านี้  (อ้อ ลืมบอกตอนแรกเราไปหาหมอที่คลีนิกมาน่ะ) 
  • ไม่ได้ใส่รองเท้าสวย ๆ กับเขาเล้ย   โอ้ชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ใส่รองเท้าสวย ๆ  เพราะเป็นเชื้อราที่เล็บ  รันทดแมะใครไม่เป็นไม่รู้หรอกนะ  ว่ามันเสียเซ้วแค่ไหน  ไม่เป็นไรไม่ใช่ปัญหา  เราก็ใช้ชีวิตปกติของเราแบบเดิม ๆ นี่แหละ  กะอีแค่เรื่องเล็บขี้ปะติ๋วนี่  เช๊อะ… (นั่นปลอบใจตัวเองเก่งนิ)
  • รำค้าญ  รำคาญ  เวลามันปวดตึบ ๆ ขึ้นมา  ถามว่าปวดมากไหม  ก็ไม่มากนะ  แต่รู้สึกตึ๊บ ๆ ๆ   รบกวนจิตใจเหลือเกิ้น  ….

น่าจะหมดแล้วนะไอ้ความลำบากจากโรคเชื้อราที่เล็บ  ขี้ปะติ๋วเนี่ย  เดียวไปหาข้อมูลดี ๆ อย่างอื่นมาโพสมั่งดีกว่า   เรื่องเล็บขี้ปะติ๋วเนี่ยหมดแก๊บแล้ว  เดี๋ยวมีอะไรใหม่ ๆ  จะเขียนให้อ่านมั่งละกัน

Read Full Post »

Older Posts »